วันจันทร์, 30 กันยายน 2567

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย เยือน ศอ.บต. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งแก้ปัญหาชายแดนใต้ ในฐานะประเทศพันธมิตร

14 ก.ย. 2022
463

วันนี้ (14 กันยายน 2565) เวลา 11.00 น. ที่ห้องรับรอง ชั้น 3 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยนางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ต้อนรับ           นายมุน ซึง-ฮยอน (Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย พร้อมด้วย           นางสาวคิม จอง อุน เลขานุการโท ฝ่ายการเมือง และคณะ ในโอกาสเยือน ศอ.บต.และจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่ง  ของการพัฒนาและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ ในฐานะประเทศพันธมิตร

นายมุน ซึง-ฮยอน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศเกาหลีนึกถึงความช่วยเหลือครั้งที่ประเทศไทยส่งทหารไปช่วยรบในสมัยสงครามเกาหลีอยู่เสมอ ซึ่งส่งผลให้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักในยุคปัจจุบัน สำหรับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศไทย ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกแห่ง ทุกประเทศ จึงเดินทางมาด้วยตนเองเพื่อศึกษาและเรียนรู้สถานการณ์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าการรับข้อมูลข่าวสารผ่าน สำหรับประเทศเกาหลีก็มีความขัดแย้งซึ่งทำให้ต้องแบ่งแยกกว่า 70 ปี อย่างไรก็ตาม นอกจากการมาเยี่ยมเยียนและศึกษาสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น เพื่อตอบแทนประเทศไทย หากไม่สามารถให้ความช่วยเหลือโดยตรงได้ ก็จะขอให้ความช่วยเหลือโดยอ้อม ซึ่งได้เดินทางพบปะผู้บริหารของหน่วยงานสำคัญทั้งของรัฐ เอกชน และนักวิชาการ และได้ข้อเสนอการให้ความช่วยเหลือ 3 เรื่องคือ 1.การให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา ในการให้สิทธิพิเศษหรือโควต้าการพิจารณาศึกษาต่อในประเทศเกาหลีของเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.ร่วมสัมมนา แลกเปลี่ยนปัญหา เพื่อขจัดความขัดแย้งในพื้นที่ ระหว่างนักวิชาการของทั้ง 2 ประเทศ และ 3.จัดเทรนนิ่งระดับข้าราชการ

ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ประเทศไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา เป็นเสมือนมิตรและญาติสนิทที่ยาวนาน สำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีร่องรอยของประเทศเกาหลีคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๒ ช่วงปัตตานี-นราธิวาส หรือที่เรียกว่า ถนนเกาหลี หรือบาตะฮ์กอลี โดยนาย ลี มย็อง-บัก ประธานาธิบดีคนที่ ๑๐ ของเกาหลีใต้ เป็นผู้ดำเนินการ ในการเริ่มทำงานครั้งแรกกับบริษัท เฮียนได คอน-สรั๊คชั่น จำกัด เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๕ หรือ พ.ศ.๒๕๐๘ อย่างไรก็ตามในการเดินมาเยือนของคณะวันนี้ รับรู้และสัมผัสถึงเจตดีในการต้องการให้ความช่วยเหลือเพื่อความสงบสุขในประเทศไทย เนื่องจากคนเกาหลี นึกถึงบุญคุณในครั้งที่ไทยส่งทหารไปช่วยรบในสมัยสงครามเกาหลีอยู่เสมอ ซึ่งไม่คาดคิดว่า การให้ความช่วยเหลือในอดีต จะส่งผลให้คนเกาหลีนึกถึง และได้ยินคำขอบคุณทุกครั้งที่พบเจอผู้บริหารทั้งรัฐและเอกชนของเกาหลี สำหรับประเด็นการร่วมช่วยเหลือจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้นั้น สามารถช่วยเหลือและยกระดับในเรื่องของการศึกษา ซึ่ง ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานด้านการพัฒนา มีส่วนร่วมในการคัดเลือกนักศึกษาที่จะเดินไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เพื่อนำความรู้และความสามารถกลับมาพัฒนาบ้านเมือง

เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า ทางคณะฯสามารถให้ความช่วยเหลือการสานต่องานด้านเศรษฐกิจ เนื่องจาก ศอ.บต. เคย     ลงนาม MOU ร่วมบริษัทดีเค เอเนอร์จี จำกัด นำโดยนาย เฟลิก มูน ประธานกรรมการผู้จัดการ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไผ่เศรษฐกิจส่งจำหน่ายไปยังเกาหลี ในปี 2562 แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 และการเสียชีวิตของประธานกรรมการผู้จัดการดีเค เอเนอร์จี จำกัด จึงส่งผลให้โครงการดังกล่าวหยุดไป แต่ ศอ.บต. ก็ยังดำเนินการส่งเสริมการปลูกไผ่และพืชพลังงาน เพื่อส่งจำหน่ายโรงไฟฟ้าในพื้นที่และในประเทศตามนโยบายของรัฐบาลไทย

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จะประสานการขับเคลื่อนเรื่องไผ่เศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง ทั้งนี้ได้กล่าวเน้นย้ำว่า จากการเดินมาใน 3 จชต. มีความสงบ น่าอยู่ ภาพที่ปรากฏ ต่างจากภาพที่เห็นบนหน้าเว็ปไซต์สื่อทั่วไป และจะนำไปบอกต่อเพื่อสร้างความเข้าใจ พร้อมวางแผนนำสื่อเกาหลีเข้ามาถ่ายทำสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกินและวิถีชีวิต เพื่อสร้างความเข้าใจอีกทางหนึ่งด้วย

ภาพ/ข่าว : วิโรจน์  ศรีไสย  สำนักข่าว ศอบต./อวชท.ชายแดนใต้