ข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวจังหวัดสงขลา หลังจากมีการผลักดันกันมานานในการก่อสร้างโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2 เนื่องจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ ต้องรองรับผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี พื้นที่คับแคบไม่สามารถขยายได้แล้ว ล่าสุด นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ลุยสำรวจพื้นที่ด้วยตัวเองมาหลายจุดทั้งที่ผู้สนใจบริจาค ที่ราชพัสดุ และได้ตัดสินใจเลือกพื้นที่ตำบลบ้านพรุ (เขตเทศบาลตำบลบ้านไร่) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบริจาคโดยกลุ่มสยามนครินทร์ จำนวน 130 ไร่
วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้มีการจัดประชุมหารือการดำเนินงาน “โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2” โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พร้อมด้วยนางสาวสุภาพร กำเนิดผล สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ , นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ , นายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 12 และผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เทศบาลตำบลบ้านไร่ และคุณจำนงค์ เอี้ยววงษ์เจริญ ผู้บริหารกลุ่มสยามนครินทร์ ผู้บริจาคที่ดิน 130 ไร่ สำหรับก่อสร้างโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าได้รับทราบปัญหาความแออัดของโรงพยาบาลหาดใหญ่มาโดยตลอด เมื่อมีโอกาสทำงานก็เดินหน้าผลักดันโครงการนี้ร่วมกับทุกภาคส่วนทันที ก่อนหน้านี้ มีผู้ติดต่อบริจาคที่ดินในเขตตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ แต่ติดปัญหาเรื่องที่ดินมรดกทราบว่ามีทายาท 1 คนไม่เซ็นต์มอบที่ดินให้ จึงมีการจัดหาที่ดินใหม่หลายแปลงทั้งที่บริจาค ที่ราชพัสดุ ซึ่งที่ดินแปลงนี้คุณจำนงค์ แจ้งความประสงค์จะบริจาคมานานแล้วจำนวน 100 ไร่ แต่ผมขอเพิ่มเติมอีกเพราะอยากสร้างเป็นเมืองสุขภาพ มีวิทยาลัยพยาบาลในพื้นที่ด้วยจึงเป็นที่มาของการบริจาคที่จำนวน 130 ไร่ของสยามนครินทร์ในวันนี้สำหรับการเลือกที่ดินแปลงนี้เราได้ตัดสินใจร่วมกันด้วยหลายเหตุผล พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่สูงน้ำไม่ท่วมแน่นอน ไม่ต้องใช้งบประมาณในการถมพื้นที่เยอะ เป็นพื้นที่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ อยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักคือถนนกาญจนวณิชย์ (ทล.4) และอยู่ใกล้แนวถนนวงแหวนรอบเมืองหาดใหญ่สายตะวันออก (ทล.425) การเดินทางสะดวกจากทุกเส้นทาง และวันนี้ได้เชิญชวนหลายหน่วยงานมาร่วมกันประชุมเพื่อช่วยกันทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจัดตั้งงบประมาณในการปรับพื้นที่แล้วจำนวน 92 ล้านบาท และเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วจะมีพิธีส่งมอบ มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง