วันอาทิตย์, 5 ตุลาคม 2568

สมาคมผู้ประกอบการวิทยุเอฟเอ็มภาคใต้จังหวัดสงขลา(สปอต.)จับมือพันธมิตร  เปิดเวที DEBATE นักการเมืองสงขลา ชิงวิสัยทัศน์ นายก อบจ.สงขลา

25 ม.ค. 2025
450

วันที่ 25 มกราคม 2568  เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา นายกสมาคมผู้ประกอบการวิทยุเอฟเอ็มภาคใต้จังหวัดสงขลา(สปอต.) เปิดเวทีดีเบตประชันวิสัยทัศน์ อนาคตของผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา พร้อมกองเชียร์ของแต่ละทีมมาให้กำลังใจ  ผู้สมัครลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา ทั้ง 3 เบอร์ มีนายนิรันดร์ จินดานาค ผู้สมัครจากพรรคประชาชน เบอร์ 2, ฮานาฟี  หมีนเส็น –      ทนายความ (ตัวแทนนายประสงค์ บริรักษ์) ผู้สมัครทีมสงขลาเข้มแข็งเบอร์ 3 ,และนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม เบอร์ 5 ผู้สมัครทีมสงขลาพลังใหม่ ที่ได้รับเป็นตัวเต็งนั่งเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมกองเชียร์ ประมาณ จำนวน 300 คน  

          ในครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดทาง สถานีวิทยุในจังหวัดสงขลา 18 สถานี ,สถานีวิทยุทั่วประเทศ 185 และทาง ทีวีช่อง Hi cable TV HI Songkhla, เพจ Hi Songkhla ,เฟสบุคไลฟ์สด ชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา,เพจองค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุภาคประชาชนแห่งประเทศไทย(อวชท.)และสมาคมผู้ประกอบการวิทยุเอฟเอ็มภาคใต้จังหวัดสงขลา(สปอต.) เพื่อเลือกคนที่มีความสามารถ ไปเป็นนายก อบจ.สงขลา ที่มีผู้สมัครทั้งหมด 9 ท่าน

          ก่อนทำการดีเบตได้มี นายสังคม ก่อเกิด รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มาเป็นประธานและสักขีพยานกล่าวคำปฏิญาณ ของผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และสมาชิกสภาจังหวัดงขลา ต่อหน้าแขกรับเชิญ  และประชนที่มานั่งฟัง พร้อมด้วย พล.ต.ท. สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่เจ้าของสถานที่ และพันเอก สุชาติ จันทร์โชติกุล หรือ “ผู้การชาติ” ที่ประชาชนชาวหาดใหญ่รู้จัก ว่าที่ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่   ในสมัยหน้า ที่เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และนั่งฟังการดีเบตจนจบงาน

 โดยผู้การชาติได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า   “ ตนไม่ได้มาเชียร์ใครเป็นพิเศษ วันนี้มาในฐานะผู้สังเกตุการณ์ และร่วมรับฟังวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรค  ซึ่งก็ได้เห็นว่านโนบายของแต่ละพรรค ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เมืองสงขลาพัฒนาไปในทิศทางที่ดีมากแต่ ในวันนี้ เรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องการกีฬาค่อนข้างจะเอ่ยถึงกันน้อย ซึ่งเมืองสงขลาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองหาดใหญ่ที่ติดกับชายแดน มีรายได้ปีละ 4 หมื่นกว่าล้านบาท  การดีเบตของผู้เข้าสมัครนายก อบจ.สงขลา ในวันนี้จะมีพูดเรื่องยุทธศาสตร์เรื่องของการท่องเที่ยว แต่การกีฬายังน้อยไป ควรให้การสนับสนุนการเล่นกีฬา เพราะกีฬาสามารถสร้างคน คนสร้างชาติ และต้องให้กีฬาควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวของเมืองสงขลา ส่วนเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนตัวมองว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนได้ตื่นตัวกันมากขึ้นและเริ่มมีเหตุผลในการเลือกนักการเมืองเข้ามาดูแลบ้านเมืองมากขึ้นโดยไม่มองและหวังผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน

     วันนี้ ตนในฐานะที่จะลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และทีมงานจะได้เป็นแนวทางเก็บเกี่ยวนโยบายที่ดีของแต่ละทีมนำมาใช้พัฒนาเมืองหาดใหญ่

   ผู้การชาติ ได้กล่าวเสริม สำหรับ เรื่องการสมัครลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่  ซึ่งมีเวลาเหลืออีก 3 เดือน ประมาณ 90 วัน ที่จะมีการเลือกตั้งเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ตนและทีมงานได้มีการเตรียมตัวมายาวนาน และมีความมั่นใจในการลงแข่งขันครั้งนี้ นอกจากนี้ก็อยากจะฝากถึงพี่น้องชาวหาดใหญ่ และชาวจังหวัดสงขลา ขอให้เลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะเข้ามาบริหาร ดูแลพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไป