วันที่ 26 พ.ค.66 พลอากาศตรี นิทัศน์ ยูประพัฒน์ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการ ประจำเสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้แทนเสนาธิการทหารอากาศ พร้อมด้วย พลอากาศตรี ศรัณย์ สมคะเณ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน นาวาอากาศเอก จณัตว์ ภัทรดิลก ผู้บังคับการกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เดินทางลงพื้นที่กองบิน 5 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และร่วมชมการฝึกยิงจรวดบุคคลต่อสู้อากาศยานด้วยกระสุนจริง ตามแผนป้องกันภัยทางอากาศประจำปี ของหน่วยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน โดยมีนาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 พร้อมด้วย รองผู้บังคับการกองบิน 5 และ ข้าราชการทหารอากาศกองบิน 5 หน่วยที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและ เข้าร่วมชมการฝึก พร้อมกล่าวชื่นชมให้โอวาท มอบของที่ระลึกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลหน่วยมือยิง
ทั้งนี้ จรวดบุคคลต่อสู้อากาศยานแบบ RBS-70 เป็นระบบในการป้องกันภัยทางอากาศระดับต่ำ แบบพื้นสู่อากาศ มีขีดความสามารถในการต่อสู้กับเครื่องบินสมรรถนะสูง หรือ อากาศยานไร้นักบินขนาดเล็ก RBS-70 เป็นจรวดแบบ Man Portable ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย และใช้งาน ใน ๑ ชุดยิงจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ จำนวน ๓ คน RBS-70 นำวิถีด้วยเลเซอร์ทำงานได้ ๒ ระบบคือ Automatic และ Manual นอกจากนั้นยังสามารถเชื่่อมต่อกับเรดาร์ ทำให้มีขีดความสามารถในการยิงเป้าหมายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งนี้ RBS-70 มีระยะยิงหวังผล ๗ กม. สำหรับ เครื่องบินความเร็วต่ำ และ ๖ กม. สำหรับเครื่องบินความเร็วสูง ระยะยิงในทางสูง ๔ กม. จรวด Rbs-70 มีระบบทำลายเป้าหมาย ๒ ระบบ คือ กระทบแตก และเฉียดระเบิด (ทำงานในรัศมี ๔.๕ เมตร)
นาวาอากาศเอก จณัตว์ ภัทรดิลก ผู้บังคับการกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการฝึกว่า วันนี้เป็นการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยานประจำปี ด้วยกระสุนจริงของหน่วยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เป็นการเตรียมความพร้อมการป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพอากาศตามแผนป้องกันประเทศ ซึ่งจะมีการฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริงที่บริเวณกองบิน 5 เป็นประจำทุกปี ซึ่งผลการยิงจรวดด้วย rbs-70 จำนวน 2 นัด และแม่นยำเข้าเป้าด้วยการกระทบแตกทั้ง 2 นัด โดยการยิงเป็นการนำวิถีด้วยเลเซอร์ ซึ่งมือยิงจะต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และมีการยิงตัวเครื่องบินอากาศยานไร้คนขับ ปีละ 1 ลำ ด้วยงบการฝึกยุทธวิธีภาคพื้นของกองทัพอากาศ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าต่อการฝึกเตรียมความพร้อมตามแผนป้องกันประเทศ
